คำกล่าวจากประสบการณ์
การที่จะบอกว่า "การที่เลิกยาเสพติดนั้นมันอยู่ที่ใจ" ข้าพเจ้าไม่ขอโต้เถียงในประโยคนี้เลย แต่ในจำนวนผู้ผ่านการใช้ยาเสพติดมาแล้วจะมีสักกี่คนที่ทำได้ รวมถึงตัวของข้าพเจ้าเองที่เป็นหนึ่งคนในจำนวนอีกหลายคนที่ทำไม่ได้ ข้าพเจ้าขอยกย่องบุคคลที่ทำให้ข้าพเจ้าเป็นคนที่มีความเข็มแข็ง มีจุดยืน และการมีจุดยืนที่ดีก็จะต้องต่อสู้กับความเป็นจริงในการใช้ชีวิต สุขเป็นทุกข์เป็น อยู่บนความเป็นจริงและที่สำคัญอดทนเท่านั้นยังไม่พอ จะต้องมีความเข้าใจในเหตุการณ์ต่างๆ นั้นด้วยหรือเขาเรียกว่าผู้มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิต
ผู้ที่รู้จักว่าการใช้ยาเสพติดนั้นมันมีโทษอย่างมาก ก็จะมีประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป เช่น ระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต หน้าที่ของเขาเองคืออะไร อะไรถูกอะไรผิด ให้ความเคารพตนเองและผู้อื่น รู้จักกฎเกณฑ์ต่างๆ และรับผิดชอบสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับวาสนา
ส่วนที่จะกล่าวถึงนี้ก็คือผู้ที่ใช้เสพติด ผู้ที่ติดยาเสพติดนั้นจะมี 4 ขั้นตอน
- ผู้ที่เริ่มใช้ยาเสพติด
- ผู้ที่ต้องการใช้ยาเสพติด
- ผู้ที่ต้องการหยุดใช้ยาเสพติด
- ผู้ที่คิดว่ายาเสพติดจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว
การที่จะมาเป็นผู้ที่ติดยาเสพติดไม่ใช้เรื่องยากเลย เริ่มต้นจากการขาดความรับผิดชอบ การขาดจุดยืนไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ชักชวนอะไรได้ง่าย เมื่อได้ทดลองเสพยาเสพติดแล้วขึ้นอยู่ที่ว่า ยาเสพติดจะประทับใจผู้ที่ได้ทดลองมากหรือน้อยแค่ไหน และโอกาสที่จะเสพเป็นครั้งที่ 2 นั้นไม่ใช้เรื่องยากอะไร เพราะความกลัวเริ่มน้อยลงและหลังจากนั้นครั้งที่ 3และ 4 ก็จะตามมาจนนับจำนวนไม่ได้ ดังนั้นการนับครับที่เสพยาเสพติดจึงเปลี่ยนใหม่จากครั้งเป็นเดือนเป็นปีหรือ 10 ปี 15 ปี ซึ่งต้องขึ้นอยู่ที่วาระของอายุว่าจะสิ้นลงเมื่อไร
แต่จริงๆ แล้วการเลิกจากยาเสพติดไม่ได้ยากอะไรเลย สำหรับผู้ที่มีจุดยืนที่ดี ผู้ที่มีความรับผิดชอบ จากที่กล่าวมาจากเบื้องต้นว่า สำหรับบุคคลที่ขาดจุดยืน หรือมีปัญหาเรื่องของจุดยืนในการดำเนินชีวิตมันแตกต่างกันมาก เพราะขาดความรับผิดชอบในด้านต่างๆ จนไม่สามารถอยู่บนความเป็นจริงได้ ทำให้คนรอบข้างหมดความหวัง แม้กระทั้งพยายามให้กำลังใจตนเองอยู่เสมอว่ามันอาจเป็นเวรกรรมของบิดามารดา
แต่ที่จริงแล้วผู้เสพยาเสพติดหลังจากที่หยุดการใช้ยาแล้ว ควรที่จะฝึกฝนความรับผิดชอบ และการฝึกฝนนั้นคือการฟื้นฟูจิตใจที่เราๆ ท่านๆ เคยได้รู้จักกันมา